มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ



   มะเร็งกระเพาะปัสสาวะเป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในมะเร็งของระบบขับถ่าย ปัสสาวะ พบมากในเพศชาย ในช่วงอายุ 50-70 ปี เกิดจากเยื่อบุภายในกระเพาะ ปัสสาวะมีการแบ่งตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติจนกลายเป็นก้อนเนื้อขึ้นมา ก้อนเนื้อนี้ สามารถเจริญเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และแผ่ขยายลุกลามออกไปยังอวัยวะและต่อมน้ํา เหลืองข้างเคียงได้หากไม่ได้รับการรักษาให้ถูกต้อง

สาเหตุ
   สาเหตุที่แท้จริงของมะเร็งยังไม่ทราบแน่ชัดแต่พบว่ามีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่าง ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็ง ปัจจัยที่สําคัญที่สุด คือ การสูบบุหรี่ เพราะควันบุหรี่มี สารก่อมะเร็งที่สามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสโลหิตและขับถ่ายออกทางกระเพาะปัสสาวะได้ การสูบบุหรี่จึงทําให้กระเพาะปัสสาวะสัมผัสกับสารก่อมะเร็งโดยตรง ส่วนปัจจัยเสี่ยง อื่นๆ ก็ยังมีผู้ที่ทํางานเกี่ยวกับสีและสารเคมีที่มีส่วนประกอบของสารอะนีลีน (aniline) หรือไฮโดรคาร์บอนเช่น สีย้อมผ้า สีย้อมผม อุตสาหกรรมเสื้อผ้าและผู้บริโภคขัณฑสกร นอกจากนี้การระคายเคืองและการอักเสบเนื่องจากก้อนนิ่วหรือติดเชื้อพยาธิชนิดหนึ่ง ที่ชอบไข่อยู่ตามผนังในกระเพาะปัสสาวะจะกระตุ้นให้เซลล์เยื่อบุในทางเดินปัสสาวะ เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์มะเร็งขึ้น และผู้ที่เคยรักษามะเร็งอย่างอื่นด้วยวิธีการ ฉายแสงบริเวณเชิงกรานหรือด้วยเคมีบําบัดก็เป็นสาเหตุชักนําให้เกิดโรคนี้ได้

อาการ
   อาการที่น่าสงสัยและผู้ป่วยควรจะรีบไปพบแพทย์คือ ส่วนใหญ่ปัสสาวะเป็น เลือดโดยไม่มีอาการเจ็บปวด ถ้าเป็นรุนแรงอาจจะเป็นเลือดสดๆ ถ้าไม่รุนแรงอาจมีสี เหมือนน้ําล้างเนื้อ บางรายอาจมีเพียงปัสสาวะบ่อยและมีอาการปวดขณะเบ่งปัสสาวะ โดยปวดบริเวณท้องน้อยหรือปลายท่อปัสสาวะ ส่วนในระยะลุกลามจะมีอาการปวด และบางรายมีการอุดตันของท่อไตทําให้มีอาการของภาวะไตวายและปวดหลังได้ด้วย

การวินิจฉัย
   การวินิจฉัยแยกโรคเนื่องจากอาการดังกล่าวอาจจะเกิดจากโรคอย่างอื่นได้ เช่นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ดังนั้นไม่ควรวิตกกังวลเกินไป ควรพบแพทย์ระบบ ปัสสาวะเพื่อวินิจฉัยให้แน่นอน หลังจากแพทย์ซักประวัติและตรวจร่างกายแล้ว จะให้เก็บปัสสาวะตรวจทางห้องปฏิบัติการเมื่อพบมีเม็ดเลือดหรือเซลล์มะเร็งปะปนอยู่ ควรได้รับการตรวจโดยการส่องกล้องขนาดเล็กสอดผ่านท่อปัสสาวะเข้าไปสํารวจ ภายในกระเพาะปัสสาวะ โดยทั่วไปการตรวจดูด้วยกล้องมักบอกได้ค่อนข้างแน่นอน ว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ แต่ในกรณีที่สงสัยแพทย์ก็จะนําชิ้นเนื้อชิ้นเล็กๆไปตรวจทางห้อง ปฏิบัติการเพื่อยืนยัน ในผู้ป่วยบางรายอาจมีความจําเป็นต้องตรวจด้วยการถ่ายภาพ ทางรังสีกระเพาะปัสสาวะ หรือเครื่องตรวจอย่างอื่น เช่น เอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือ เครื่องตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็ก เป็นต้น

การรักษา
   การรักษาขึ้นอยู่กับระยะของโรค โดยทั่วไปแล้วการรักษาประกอบด้วย เป็น น้อยใช้การส่องกล้องตัดมักตัดออกได้หมดกรณีมีการลุกลามไปถึงผนังของกระเพาะ ปัสสาวะและอวัยวะข้างเคียง การรักษาทําได้โดยการผ่าตัดเอากระเพาะปัสสาวะพร้อมกับอวัยวะข้างเคียงส่วนที่มีโรคลุกลามไปออกจนหมด และตัดเอาบางส่วนของ ลําไส้มาดัดแปลงเป็นกระเพาะปัสสาวะให้ใหม่ ผู้ป่วยจะยังคงถ่ายปัสสาวะได้ปกติ ทางท่อปัสสาวะแต่บางรายจําเป็นต้องมีปัสสาวะออกทางปลายลําไส้ที่นํามาเปิดออก ทางหน้าท้อง และถ้าเป็นมาก ลุกลามไปมากกว่านั้นคงช่วยได้ทางเคมีบําบัดและรังสี รักษา

วิธีการป้องกัน
   1. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ โดยเฉพาะการสูบบุหรี่ก่อนนอน เพราะจะมีการคั่ง ค้างของสารก่อมะเร็งอยู่ใน กระเพาะปัสสาวะเป็นเวลานาน
   2. หากปฏิบัติงานในโรงงานอุตสาหกรรมสี ยาง และสายไฟฟ้าแลพลาสติก ควรระวังขณะกินอาหารเพราะสีอาจติดมือปะปนอยู่ในอาหารได้ ฉะนั้นจึงควรล้างมือ ให้สะอาดก่อนกินอาหารทุกครั้ง
   3. เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีวิธีตรวจคัดกรองโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะตั้ง แต่ยังไม่มีอาการ ดังนั้นเมื่อมีอาการผิดปกติโดยเฉพาะเมื่อมีเลือดปนออกมาในปัสสาวะ ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาแต่เนิ่นๆ



รศ.นพ.ธวัชชัย ทวีมั่นคงทรัพย์
ภาควิชาศัลยศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

สถานวิทยามะเร็งศิริราช

อาคารเฉลิมพระเกียรติชั้น 13 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เลขที่ 2 ถนนวังหลัง แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700