มะเร็งท่อน้ำดี


 มะเร็งท่อน้ําดี (Cholangiocarcinoma) เป็นมะเร็งที่เกิดจากเซลล์เยื่อบุผิวภาย ในท่อน้ําดีเจริญเติบโตอย่างผิดปกติ จนอาจไปกดเบียดหรือลุกลามอวัยวะข้างเคียงซึ่ง ประกอบด้วยตับ ตับอ่อน หรือลําไส้เล็กส่วนต้น

ชนิดของมะเร็งท่อน้ําดี เนื่องจากท่อน้ําดีนั้นมีทั้งส่วนที่วางตัวอยู่ในตับและ ออกมานอกตับจึงแบ่งชนิดของมะเร็งท่อน้ําดีเป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ คือ
  1. มะเร็งท่อน้ําดีในตับ
  2. มะเร็งท่อน้ําดีนอกตับ

สาเหตุของมะเร็งท่อน้ําดี
   ปัจจุบันสาเหตุของมะเร็งท่อน้ําดียังไม่เป็นที่ทราบ แน่ชัด แต่พบว่ามีหลายปัจจัยสภาวะที่ทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ของเซลล์ท่อน้ําดี จนทําให้เกิดการเติบโตอย่างผิดปกติกลายเป็นมะเร็งท่อน้ําดีได้ เช่น นิ่วในทางเดิน น้ําดีในตับ พยาธิใบไม้ตับ การอักเสบเรื้อรังภายในท่อน้ําดี ภาวะการอักเสบเรื้อรัง ของลําไส้ใหญ่ และสารเคมีบางชนิด เป็นต้น

อาการและอาการแสดง
   ผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ําดีในตับและนอกตับจะแตกจะมี อาการ อาการแสดงต่างกัน ในกรณีของมะเร็งท่อน้ําดีในตับนั้น โดยทั่วไปผู้ป่วยมัก จะไม่มีอาการผิดปกติ จนกระทั่งมะเร็งมีขนาดใหญ่จนกดเบียดอวัยวะข้างเคียงหรือ ทางเดินน้ําดีจนอุดตันทําให้ มีอาการปวดแน่นท้อง ตัวตาเหลือง เป็นต้น ส่วนกรณี ของมะเร็งท่อน้ําดีนอกตับจะเริ่มมีอาการจากการที่มีการอุดตันของท่อน้ําดี ทําให้มี อาการตัวตาเหลืองหรือที่เรียกว่าดีซ่าน (Jaundice) คันตามตัว อุจจาระสีซีดลงได้ โดยอาจไม่มีอาการปวดแน่นท้องมาก่อนเลย จะเห็นได้ว่าอาการของมะเร็งท่อน้ําดีใน ระยะต้นนั้นมักจะน้อยและไม่ค่อยจําเพาะ จึงทําให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มารับการรักษา มักจะเป็นมะเร็งท่อน้ําดีที่มีขนาดใหญ่หรือเริ่มมีการลุกลามแล้ว

การวินิจฉัยโรค
   นอกจากอาการและอาการแสดงดังกล่าวข้างต้น การตรวจ ทางห้องปฏิบัติการที่ช่วยในการวินิจฉัยประกอบด้วย การตรวจภาพรังสีวินิจฉัย อัลตราซาวนด์ (Ultrasonography) เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (Computed Topography - CT) การตรวจเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Resonance Imaging - MRI) โดยการตรวจภาพวินิจฉัยแต่ละชนิดก็จะมีความแม่นยํา และจําเพาะแตกต่างกันไป โดยดุลพินิจในการส่งตรวจขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้รักษา
   โดยทั่วไปแล้วการตรวจเลือดเพื่อดูค่าการทํางานของตับ (Liver function test) หรือสารบ่งชี้มะเร็ง (Tumor marker) ในผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ําดีระยะแรกนั้นมักจะไม่ พบความผิดปกติ ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีประโยชน์ในการช่วยวินิจฉัย

การรักษา
   การรักษาหลักของมะเร็งท่อน้ําดีคือ การผ่าตัด กรณีของมะเร็งท่อ น้ําดีในตับ การผ่าตัดจะประกอบด้วยการผ่าตัดตับ (Hepatic resection/ Hepatectomy) ส่วนในกรณีของมะเร็งท่อน้ําดีนอกตับ การผ่าตัดจะประกอบด้วยการผ่าตัด ตัดท่อทางเดินน้ําดี (Bile duct resection) อาจต้องมีการผ่าตัดตับ หรืออาจต้อง ผ่าตัดตับอ่อนและลําไส้เล็กส่วนหนึ่งร่วมด้วย (Pancreaticoduodenectomy) ถ้ามะ เร็งท่อน้ําดีมีการลุกลามมาที่บริเวณดังกล่าว
   เนื่องจากผลในการรักษาด้วยยาเคมีบําบัดหรือฉายแสงรักษาในปัจจุบันนั้น ยังไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร จึงไม่ได้ใช้เป็นการรักษาหลัก แต่อาจใช้เป็นการรักษาร่วมใน กรณีก่อนผ่าตัดหรือหลังผ่าตัด

ผลการรักษา
   ในปัจจุบันผลการรักษาของมะเร็งท่อน้ําดียังไม่สู้ดีนักเนื่องจาก ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมาพบแพทย์เมื่อมะเร็งท่อน้ําดีมีขนาดใหญ่หรือลุกลามแล้ว ดังนั้น จึงพบว่ามีผู้ป่วยเพียง 1 ใน 4 เท่านั้น ที่สามารถทําการผ่าตัดได้ โดยถ้าสามารถ ผ่าตัดเอามะเร็งท่อน้ําดีออกได้หมดจะมีอัตราการรอดชีวิตที่ 5 ปีอยู่ที่ประมาณ 10-40% แต่ถ้าพบว่ามีการลุกลามไปแล้วอัตราการรอดชีวิตจะต่ํากว่านั้นมาก

การป้องกัน
   เนื่องจากไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด ทําให้การป้องกันการเกิดโรคเป็นไป ได้ยาก แต่เราสามารถป้องกันหรือลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งท่อน้ําดีได้โดยการ หลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงสุกเช่น ปลาน้ําจืดดิบ การสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยง การใช้ยาหรือสารเคมีที่ไม่จําเป็น



อ.นพ.ประวัฒน์ โฆสิตะมงคล
ภาควิชาศัลยศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

สถานวิทยามะเร็งศิริราช

อาคารเฉลิมพระเกียรติชั้น 13 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เลขที่ 2 ถนนวังหลัง แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700