เป็นโรคมะเร็งที่พบบ่อยในประเทศไทย เป็นสาเหตุการตาย อันดับหนึ่งของผู้ป่วยชายไทย
1. โรคมะเร็งตับปฐมภูมิ คือ มะเร็งที่เกิดจากเนื้อเยื่อของตับเอง แบ่งได้ หลายชนิดตามชนิดของเนื้อเยื้อ ต้นกําเนิดมะเร็งตับปฐมภูมิที่พบบ่อยในประเทศไทย
1.1 มะเร็งจากเชลล์ตับ (Hepatocellularcarcinoma)
1.2 มะเร็งจากท่อน้ําดีในตับ (Cholangiocarcinoma)
2. โรคมะเร็งตับทุติยภูมิ คือ มะเร็งที่กระจายจากอวัยวะอื่นไปสู่ตับ
- ภาวะตับแข็งจากทุกๆ สาเหตุ
- โรคตับอักเสบเรื้อรัง โดยเฉพาะไวรัสตับอักเสบบีและซี
- สารพิษที่พบปนเปื้อนจากเชื้อราในอาหารอบแห้ง (Aflatoxin) เช่น ถั่วลิสง ข้าวโพด กระเทียม ฯลฯ
- ในระยะแรกของโรคมักไม่มีอาการ หรือ อาการแสดงใดๆ
- อาการจุกแน่นลิ้นปี หรือ ชายโครงขวา เบื่ออาหาร น้ําหนักลด และมีไข้ โดยไม่มีสาเหตุอื่น
- คลําได้ก้อนใต้ชายโครงขวา
- เนื่องจากมะเร็งเซลล์ตับมักพบในผู้ป่วยที่มีภาวะตับแข็ง ผู้ป่วยจึงมักมี อาการ และอาการแสดงของภาวะตับแข็งด้วย เช่น ตาเหลือง บวม ท้องมาน อาเจียนเป็นเลือด
- ตรวจเลือดพบความผิดปกติของการทํางานของตับ และอาจพบระดับอัลฟาฟี โตโปรตีน (AFP) สูงผิดปกติ
- ตรวจพบก้อนที่ตับจากอุลตราซาวด์ (US), เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) หรือ คลื่นแม่เหล็ก (MRI)
การรักษามีหลายวิธีจําเป็นต้องประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ให้เหมาะสมกับ ผู้ป่วยแต่ละรายเนื่องจากมีปัจจัยที่ต้องคํานึงถึงมากมาย
การรักษาที่มีหลักฐานทางการแพทย์รับรอง ได้แก่
- การผ่าตัดตัดตับบางส่วน (Hepatectomy), การผ่าตัดเปลี่ยนตับ (Liver transplantation), การจี้ทําลายมะเร็งตับ (ablative therapy) ได้แก่ การใช้คลื่นเสียง (REA), การใช้แอลกอฮอล์ (PEI) เป็นต้น
- การฉีดยาเคมีร่วมกับการอุดเส้นเลือดแดงที่เข้าไปเลี้ยงมะเร็งตับ (TACE)
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อภาวะตับแข็งและมะเร็งเซลล์ตับ
- ผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบบีและซี และผู้ป่วยภาวะตับแข็ง ควรเข้ารับการ ตรวจเฝ้าระวังการเกิดมะเร็งเซลล์ตับเป็นประจํา
- เมื่อมีอาการที่เข้าได้กับภาวะตับแข็ง ควรรีบพบแพทย์
- การรับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ เช่น ก้อยปลา ฯลฯ เนื่องจากมีพยาธิใบไม้
- โรคที่มีการคั่งของน้ําดีเรื้อรัง เช่น โรคท่อน้ําดีโป่งพองแต่กําเนิด
- จุกแน่นลิ้นปี่ หรือชายโครง เบื่ออาหาร น้ําหนักลด
- ตาเหลือง คันตามตัว อุจจาระสีซีด ปัสสาวะเข้ม จากท่อน้ําดีอุดตัน
- ตรวจและวินิจฉัยแบบเดียวกับมะเร็งเซลล์ตับ แต่จะมีลักษณะภาพรังสี วินิจฉัยที่ต่างกัน
- การรักษาที่หายขาดมีวิธีเดียว คือ ค่าตัดตัดตับออกบางส่วน
- ในกรณีที่ผ่าตัดตับไม่ได้อาจให้การรักษาเพื่อบรรเทาอาการดีซ่าน เช่น ใส่ท่อ ระบายน้ําดี หรือเจาะระบายน้ําดีออกทางหน้าท้อง
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ
- ผู้ป่วยที่อยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดของพยาธิใบไม้ในตับ เช่น ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ควรตรวจอุจจาระหาการติดเชื้อและรักษาด้วยยาฆ่าพยาธิ
รศ.ดร.นพ.ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษร
ภาควิชาศัลยศาสตร์
สถานวิทยามะเร็งศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
อาคารเฉลิมพระเกียรติชั้น 13 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เลขที่ 2 ถนนวังหลัง แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700